เทคโนโลยี BIM คืออะไร? มีประโยชน์ต่อใคร
ArchiCAD in-house Training โดย คุณนัฐนิติธร เดชกุล
ระหว่างวันที่ วัน 9-10 ธันวาคม 2566
.
เทคโนโลยี BIM คืออะไร
BIM คือ Building Information Modeling เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับวงการงานสถาปัตยกรรม และการก่อสร้าง
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เสมือนว่าเรานำวัสดุก่อสร้าง มาประกอบเป็นบ้านจริงโดยมีรายละเอียดเชิง ปริมาตร พื้นที่ผิว ความหนาแน่น และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง, รวมถึงการเชื่อมต่อชิ้นงานที่ถูกต้อง
ด้วยฟังก์ชันการตรวจเช็คชิ้นงานที่ขัดแย้งกัน ซึ่งไม่มีในระบบ CAD
.
แล้วปัจจุบัน ทำแบบไหน? ปัจจุบันเป็นจุดเปลี่ยนผ่านระหว่างเทคโนโลยีที่เรียกว่า Computer-aided Design หรือ CAD ซึ่งมาจากจุดเริ่มต้นที่คอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถประมวลผลอย่างซับซ้อนได้มากนัก เริ่มใช้ในปี 1960s จะมีรายละเอียดเฉพาะเส้นโครง ส่วนในการคิด ปริมาณงานก็จะต้องคิดแยกด้วยโปรแกรมอื่นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนและอาจเกิดข้อผิดพลาดระหว่างขั้นตอนได้ หากเกิดข้อผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นคิดเกินหรือขาดไป ก็เป็นความสูญเสียที่ไม่ใช่น้อยไม่ว่าจะฝ่ายไหน
.
เมื่อคอมพิวเตอร์สามารถรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนได้มากขึ้น การประมวลผลตัวแปรพร้อมพร้อมกันจึงถูกพัฒนาเพื่อต่อยอดจาก CAD ไปสู่ BIM เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน และสร้าง Work Flow ที่มีประสิทธิภาพ
.
ในขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีถือว่ามีความท้าทายทั้งในด้านของความสามารถของบุคลากร ความพร้อม และแนวคิดในการทำงาน หลายหลายคนอาจคุ้นชินกับการทำงานรูปแบบเดิมๆ การที่จะเปลี่ยนเข้าสู่เทคโนโลยีใหม่จึงเป็นความท้าทายใหม่
.
ทาง ADMIRE ได้เห็นถึงความสำคัญในการนำเทคโนโลยีเทคโนโลยีมาใช้ในงานก่อสร้าง ได้ทำการศึกษาจุดคุ้มทุน และได้จัดซื้อซอฟต์แวร์จากค่าย แอพพลิเคชั่นไทย ที่ชื่อว่า ArchiCAD 27 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้ เพื่อการดำเนินธุรกิจ
.
มาถึงขั้นตอนที่สำคัญ และถือเป็นหัวใจหลักคือการเตรียมความพร้อมบุคลากร ที่เกี่ยวข้องในงานก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่ ฝ่ายขาย สถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง โฟร์แมน และฝ่ายจัดซื้อ ให้มีความเข้าใจถึงที่มาและความสำคัญของการใช้ BIM สำหรับงานก่อสร้าง รวมถึง Work Shop การทำงานจริงด้วย ArchiCAD 27 ซึ่ง เป็นโปรเจคเล็กๆเพื่อความเข้าใจในโครงสร้างของซอฟต์แวร์
.
ประโยชน์ของ BIM สำหรับเจ้าของบ้าน
1. ลดข้อผิดพลาดในการสรุปปริมาณงาน คือไม่คิดปริมาณเกินจริง
2. ทำงานได้เร็วขึ้น คือไม่ต้องทำงานแบบซ้ำซ้อน
3. ลดความผิดพลาดในการก่อสร้าง คือแบบที่เขียนสร้างได้จริง
4. ลดงานเสียจากแบบที่ขัดแย้งผิดพลาด
5. ลูกค้ามั่นใจในขั้นตอนการทำงาน
.
ประโยชน์ของ BIM สำหรับผู้ก่อสร้าง
1. ทำให้ทั้งผู้ออกแบบ ผู้ร่วมงาน ลูกค้า สื่อสารได้เข้าใจกันง่ายขึ้น เพราะเห็นเป็น 3 มิติ แบบชัดเจน
2. ลดเวลาด้านเขียนแบบไปได้ไม่ต่ำกว่า 30% ทำให้โครงการก่อสร้างเสร็จเร็วกว่าเดิม
3. ทำงานได้มากขึ้น เร็วขึ้นด้วยทีมงานเท่าเดิม สร้างผลประกอบการที่ดี
4. ลดความผิดพลาดงานแก้แบบ
5. ลดข้อผิดพลาดและเวลาในการสรุปปริมาณ
6. ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการก่อสร้างผิดแบบ
ในวันฝึกอบรม 2 วัน ระหว่างวันที่ วัน 9-10 ธันวาคม 2566 ประกอบไปด้วยหลักสูตร ดังนี้
1. การใช้คำสั่งเบื้องต้น
2. การจัดการ Navigation การทำงาน
3. การสร้างโปรไฟล์วัสดุตบแต่งสถาปัตย์
4. การขึ้นโมเดลบ้านพักอาศัย
5. การจัดทำรายการประกอบแบบ
6. การจัดทำเล่ม แบบก่อสร้าง
7. การจัดทำปริมาณงานหรือ BOQ
8. ตอบคำถามหรือข้อสงสัย
สรุปผลการฝึกอบรม ทุกภาคส่วนเข้าใจที่มาและความสำคัญของการใช้ BIM และสามารถใช้เครื่องหมายเครื่องมือต่างๆได้ตามส่วนงานที่ตนเองรับผิดชอบ ซึ่งในงานฝึกอบรมอาจมีเนื้อหาที่เข้มข้น ไม่สามารถครบถ้วนในครั้งเดียว แต่สามารถเข้าใจภาพรวมของซอฟต์แวร์ และสามารถนำไปต่อยอดต่อได้ ทุกคนเห็น สอดคล้องกันว่า การใช้ BIM จะช่วยให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพได้จริง แต่ความยากจะอยู่ที่การเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีในขั้นตอนตรงนี้
ทางแอ็ดไมร ได้วางหมุดหมายหลัก หรือ Milestone เริ่มต้นการใช้งานระบบ BIM ด้วย ArchiCAD 27 ในทุกภาคส่วน อย่างเต็มรูป 100% ในปี พ.ศ. 2567